เคล็ดไม่ลับ! ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ฝักใหญ่ เมล็ดแน่น น้ำหนักดี
เคล็ดไม่ลับ! ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ฝักใหญ่ เมล็ดแน่น น้ำหนักดี
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทในการทำปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เป็นอย่างมาก เพราะข้าวโพดอาหารสัตว์มักจะถูกใช้เป็นส่วนผสมหลักในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารสุนัข แมว กระต่าย หรือแม้แต่การนำไปเป็นอาหารสำหรับปศุสัตว์
ถึงแม้ว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถทำรายได้ตลอดปี แต่ปัญหาใหญ่ที่พี่น้องชาวเกษตรกรมักจะพบเจอคือข้าวโพดฝักเล็ก เมล็ดหลวมไม่แน่น และมีน้ำหนักเบา ทำให้ราคาขายอาจไม่ได้กำไรคุ้มค่าอย่างที่คิด
เพื่อให้การเกษตรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เฟื่องฟู และทำเงินให้กับพี่น้องเกษตรกรได้มากขึ้น บทความนี้ CMT ได้รวบรวมเคล็ดลับการปลูกข้าวโพดให้ฝักใหญ่ เมล็ดแน่น และน้ำหนักดี มั่นใจได้ว่าจะนำไปขายได้ราคาดีแน่นอน
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์คืออะไร? แตกต่างจากข้าวโพดกินฝักยังไง?
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คือข้าวโพดที่เน้นปลูกเพื่อนำไปใช้ในอาหารสัตว์ ไม่ใช่ข้าวโพดที่นำมาต้มกินฝักในครัวเรือนทั่วไป สังเกตได้จากเมล็ดของข้าวโพดที่ดูแข็ง มีน้ำหนัก ไม่เงาวาวแบบข้าวโพดกินฝัก และไม่มีรสชาติหวานอร่อย เนื่องจากจะเน้นคุณภาพของเมล็ดมากกว่ารสชาตินั่นเอง
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฝักใหญ่ เมล็ดแน่น น้ำหนักดี
การที่พี่น้องเกษตรกรจะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ได้ข้าวโพดน้ำหนักดี เมล็ดแน่นนั้น มีหลายปัจจัยที่จะทำให้ข้าวโพดอาหารสัตว์ออกมาสมบูรณ์ ฝักใหญ่ พร้อมขายได้ราคาดี ดังเช่น
1. เลือกพันธุ์ข้าวโพดที่เหมาะกับพื้นที่
พันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มักจะเพาะปลูกกัน ได้แก่ พันธุ์สุวรรณ 3851 หรือพันธุ์ลูกผสม ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ทนแล้งและโตเร็ว ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเลือกให้เหมาะกับพื้นที่ที่เพาะปลูกด้วย
2. เตรียมดินให้พร้อม
ถึงแม้จะเป็นข้าวโพดที่ใช้ในอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ แต่ก็ต้องมีการเตรียมดินที่ดีไม่แพ้พืชเศรษฐกิจในครัวเรือนเช่นกัน เพราะดินถือเป็นรากฐานสำคัญของการเจริญเติบโตของพืช พี่น้องเกษตรกรจึงควรเตรียมดินให้ร่วนซุย ละเอียด อุ้มน้ำและระบายอากาศได้ดี
ซึ่งนอกจากการใช้ผานพรวนไถก่อนลงพันธุ์ข้าวโพดจะช่วยให้ดินมีความละเอียดนุ่มฟูแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสารอาหารในดินได้ เพราะผานพรวนจะช่วยไถกลบปุ๋ยพืชสดให้กระจายทั่วดิน ทำให้พืชได้รับแร่ธาตุได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
3. ใส่ปุ๋ยและธาตุอาหารให้ครบถ้วน เพียงพอต่อการเจริญเติบโต
ในการเสริมธาตุอาหารให้กับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้นสามารถทำได้ตั้งแต่ช่วงก่อนลงท่อนพันธุ์ และช่วงข้าวโพดออกดอก โดยจะใช้เป็นปุ๋ยเร่ง NPK รองพื้น และใช้ปุ๋ยเสริมแคลเซียม โบรอนในช่วงข้าวโพดออกดอก เพื่อเพิ่มโอกาสได้ข้าวโพดเมล็ดแน่นเต็มฝัก
4. ให้น้ำอย่างเหมาะสม
การให้น้ำอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญมากของการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยจะเน้นการให้น้ำช่วงที่ข้าวโพดเริ่มออกดอก-ติดฝัก และไม่ควรรดน้ำจนท่วมขัง เนื่องจากจะเป็นการทำลายรากข้าวโพด
5. ป้องกันแมลงและโรคพืช
อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกรได้ข้าวโพดที่เมล็ดแน่น น้ำหนักดี ฝักสวย นั่นคือมีการรบกวนจากแมลงและโรคพืชน้อยที่สุด โดยศัตรูพืชที่มักเจอบ่อยในข้าวโพดคือหนอนเจาะฝัก เพลี้ย และโรคราน้ำค้าง
ควรป้องกันศัตรูตัวฉกาจเหล่านี้ด้วยสารชีวภัณฑ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ และปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อลดอัตราการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียในดิน
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : โรคและแมลงศัตรูพืชในมันสำปะหลัง พร้อมวิธีป้องกันแบบปลอดภัย
ปฏิทินการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ได้คุณภาพ
สำหรับช่วงฤดูที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้นจะเป็นช่วงต้นฤดูฝน เนื่องจากจะมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อความต้องการของพืช ไม่ท่วมขังจนเกินไป หรือถ้าพี่น้องเกษตรกรกังวลเรื่องความชื้นสะสม อาจใช้ผานยกร่องเพื่อทำการยกแปลงให้สูง เพิ่มอัตราการระบายน้ำลงร่อง แทนที่จะท่วมขังอยู่ในระยะปลูกได้
นอกจากนี้แต่ละภูมิภาคยังมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อีก ดังนี้
- ภาคกลางและภาคตะวันออก ปลายเดือนมีนาคม-ต้นมิถุนายน, กลางเดือนกรกฎาคม-กลางสิงหาคม
- ภาคเหนือ เดือนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายน
- ภาคใต้ ปลูกได้ตลอดฤดูฝน แต่ควรมีการยกแปลงเพิ่มเติม หลีกเลี่ยงการปลูกในพื้นที่ลุ่มต่ำ
สรุปเป็นตารางแบบเข้าใจง่าย ได้ดังนี้
และที่สำคัญอย่าลืมวางแผนเรื่องการเก็บเกี่ยวในช่วงความต้องการตลาดสูง เพื่อให้ได้เปรียบในการเสนอขายที่รวดเร็วกว่าคู่แข่งด้วยนะ!
เทคนิคเร่งฝักให้ใหญ่ เมล็ดแน่นในช่วงออกดอก ติดฝัก
หากพี่น้องเกษตรกรต้องการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ได้ฝักใหญ่ เมล็ดแน่น ควรปฏิบัติตามวิธีดังนี้
- ฉีดพ่นธาตุอาหารรองเสริม เช่น แคลเซียม-โบรอน
- ให้น้ำสม่ำเสมอและเพียงพอ ไม่ท่วมขัง
- หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนต้นในช่วง 5075 วันหลังปลูก
- กรณีปลูกเชิงพาณิชย์ ให้ใช้สารเร่งการสร้างเมล็ดตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมการเกษตร
เก็บเกี่ยวอย่างไรให้ได้ผลผลิตเต็มเมล็ด ไม่เสียคุณภาพ
ในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น จะใช้เวลาตั้งแต่การเริ่มปลูกจนถึงระยะเก็บเกี่ยวอยู่ที่ประมาณ 100-110 วัน โดยช่วงที่ควรเก็บเกี่ยวมากที่สุดคือต้องรอให้ฝักแห้งประมาณ 80% จึงค่อยตัด เพื่อให้ได้ผลผลิตเต็มเมล็ด อาจใช้เครื่องมือช่วยตัดที่ไม่ทำให้เมล็ดแตก เช่น เครื่องปลิดฝักข้าวโพด (Corn Snapper) เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว เพื่อไม่ให้เมล็ดขึ้นราจนสูญเสียโอกาสในการตั้งราคาผลผลิต แนะนำให้เก็บข้าวโพดด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- จัดทำพื้นที่สำหรับวางข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้มีการระบายอากาศได้ดี มีการยกพื้นด้วยไม้ระแนงเพื่อให้สามารถ
- ระบายอากาศได้ทั้งบนและล่าง
- จัดวางกองข้าวโพดไม่ให้ทับกันจนเกินไป
- ไม่วางในพื้นที่เปียก อับชื้น เพื่อลดการเกิดสารอะฟลาท็อกซินที่ทำให้เกิดรา
FAQ : รวมทุกข้อสงสัยเรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตอบทุกคำถามพี่น้องเกษตรกร
หากพี่น้องเกษตรกรท่านไหนมีข้อสงสัยเรื่องการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต้องใช้ข้าวโพดพันธุ์อะไร หรือใช้ปุ๋ยสูตรไหน มาดูคำตอบที่เรารวมไว้ให้แล้วได้เลย!
Q: ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ใช้พันธุ์ไหนปลูกดี?
A: พันธุ์ลูกผสม เช่น สุวรรณ 3851 ให้ผลผลิตดี เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทย
Q: ต้องใช้ปุ๋ยอะไรบ้างให้ได้ข้าวโพดเมล็ดแน่น?
A: ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 รองพื้น และเสริมแคลเซียม-โบรอนช่วงออกดอก ติดฝัก
Q: ข้าวโพดออกฝักแล้ว แต่ฝักเล็ก เกิดจากอะไร?
A: อาจให้น้ำไม่พอช่วงติดฝัก หรือขาดธาตุอาหารสำคัญช่วงออกดอก
Q: เก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตอนฝักยังเขียวได้ไหม?
A: ไม่ควร เพราะน้ำหนักจะน้อย เมล็ดยังไม่เต็ม อาจเสียคุณภาพและราคาขาย
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะให้ผลผลิตดี ต้องใส่ใจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
หากพี่น้องเกษตรกรต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีคุณภาพเมล็ดดี ฝักแน่น มีน้ำหนัก ควรใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่ดิน น้ำ ปุ๋ย จนไปถึงการจัดการแมลงและป้องกันโรคพืชต่าง ๆ เพราะทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสได้ผลผลิตดีทั้งสิ้น
และหน้าที่ในการเตรียมดินปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของพี่น้องเกษตรกร ให้ CMT ตัวจริงเรื่องเครื่องมือเกษตรเป็นผู้ดูแล ด้วยเครื่องมือการเกษตรที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเตรียมดินให้รวดเร็ว ละเอียด ร่วนซุย พร้อมสำหรับทุกการเพาะปลูก
ไม่ว่าพี่น้องเกษตรกรจะมองหาผานพรวน ผานยกร่อง หรืออุปกรณ์การเกษตรอื่น ๆ CMT มีเครื่องมือคุณภาพหลากหลาย แข็งแรงทนทาน มั่นใจใช้งานได้นานจากเหล็กโบรอนคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทุกสภาพดิน พร้อมเคียงข้างเกษตรกรไทย
สนใจผลิตภัณฑ์ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านช่องทาง
- CMT Thailand เบอร์ +66 38 273 250 to 7
- Facebook Page: Cmt ชลบุรีเมืองทอง ไถดีที่สุด -เพจหลักเพจเดียว
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน LINE Official @cmt1955