เทคนิคการใช้น้ำหยดให้อ้อยงามในหน้าแล้ง เพิ่มผลผลิตเต็มไร่
หน้าแล้งนี้อ้อยต้องรอด! เทคนิคการใช้น้ำหยดให้อ้อยงามในหน้าแล้ง เพิ่มผลผลิตเต็มไร่
พี่น้องชาวเกษตรกรรู้หรือไม่ว่า อ้อย เป็นพืชที่ต้องการน้ำสูงมาก เมื่อเข้าหน้าแล้งหรืออากาศร้อนจัดทีไรก็มักจะเสี่ยงอ้อยตาย ใบแห้ง หรือเจริญเติบโตไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ผลผลิตน้อยลงทุกที แล้วจะทำอย่างไรดีให้สามารถให้น้ำอ้อยอย่างเพียงพอในช่วงฤดูแล้งของแต่ละปีได้
บทความนี้ CMT จะมาแนะนำเทคนิคปลูกอ้อยหน้าแล้งด้วย ระบบน้ำหยด วิธีที่จะช่วยให้อ้อยนั้นเติบโตผ่านหน้าร้อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังต้นทุนแรงงานต่ำอีกด้วย หากพี่น้องเกษตรกรท่านใดได้มาอ่านบทความนี้ แนะนำเซฟเก็บไว้อ่านได้เลย เพราะได้ใช้อย่างแน่นอน!
ปัญหาของเกษตรกรกับการปลูกอ้อยในหน้าแล้ง
หน้าร้อนหรือฤดูแล้ง ถือเป็นฝันร้ายของชาวเกษตรกร แถมยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของไร่อ้อย เพราะทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ใบไหม้ หัวไม่โต และผลผลิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากอ้อยนั้นเป็นพืชที่ต้องการน้ำต่อปีสูงถึง 1,500 มิลลิเมตร ต่อ 1 ไร่ เมื่อหน้าแล้งมาถึง บวกกับฝนไม่ตกตามฤดูกาล ก็ยิ่งทำให้อ้อยไม่ได้รับน้ำในปริมาณมากอย่างที่ควรจะเป็น ส่งผลทั้งต่อจำนวนผลผลิตและรายได้ของพี่น้องเกษตรกรอีกด้วย
การให้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นทางรอดสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาการสูญเสียผลผลิตในช่วงฤดูแล้งไปได้ ซึ่ง ระบบน้ำหยด เป็นวิธีการให้น้ำอ้อยที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 95% นอกจากจะทำให้อ้อยได้รับน้ำอย่างเพียงพอแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่มผลผลิตอ้อยหน้าแล้งได้อีกด้วย
น้ำหยดคืออะไร? ทำไมเหมาะกับอ้อยในหน้าแล้ง
ระบบน้ำหยด (Drip Irrigation) คือการให้น้ำในปริมาณน้อยอย่างสม่ำเสมอโดยตรงที่รากพืช ลดการสูญเสียน้ำ และช่วยรักษาความชื้นในดินได้ต่อเนื่อง เหมาะกับพืชไร่ เช่น อ้อย ที่ปลูกในพื้นที่กว้าง
ระบบน้ำหยดจะเป็นการนำน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ อย่าง แหล่งน้ำธรรมชาติ บ่อบาดาล หรือสระน้ำมาใช้ โดยจะเป็นการส่งน้ำผ่านท่อที่มีหัวน้ำหยด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะปล่อยน้ำออกมาอย่างสม่ำเสมอ ท่อของระบบน้ำหยดจะติดตั้งบริเวณโคนอ้อย ทำให้น้ำที่หยดลงมานั้นค่อย ๆ ซึมเข้าสู่รากอ้อยได้โดยตรง ช่วยรักษาระดับความชื้นในดินให้พอกับความต้องการของอ้อย ทำให้อ้อยยังสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้แม้จะพบเจอกับศัตรูอย่างหน้าแล้ง
นอกจากนี้แล้ว ระบบน้ำหยดยังสามารถใช้ในสภาพดินหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นดินทราย ดินร่วน หรือดินเหนียว ดังนั้นพี่น้องเกษตรกรคลายกังวลเรื่องดินไปได้เลย แล้วมาดูอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการติดระบบน้ำหยดอ้อยหน้าแล้งกัน
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับติดตั้งน้ำหยดในไร่อ้อย
สำหรับพี่น้องชาวเกษตรกรที่ต้องการติดตั้งระบบน้ำหยดเพื่อให้น้ำอ้อยในไร่ของตัวเอง สามารถเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นระบบที่มีต้นทุนน้อย ไม่ต้องลงทุนมากและไม่ต้องมีสระน้ำขนาดใหญ่ก็สามารถทำได้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- ท่อน้ำเมน PVC ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 10 ชิ้น
- สายน้ำหยด ความยาว 6,000 เมตร
- หัวน้ำหยด
- วาล์วควบคุมแรงดัน
- ถังเก็บน้ำหรือระบบสูบน้ำ
ซึ่งระบบน้ำหยดง่าย ๆ นี้จะสามารถใช้งานได้สูงสุด 3 ปี ต่อการลงทุน 1 ครั้ง วิธีการคือติดตั้งระบบท่อ หัวน้ำหยดและสายน้ำหยดไว้บริเวณโคนต้นอ้อย แนะนำว่าในช่วงก่อนลงอ้อย ให้ทำร่องอ้อยเป็นแบบสี่เหลี่ยมคางหมูด้วยผานยกร่องเพื่อที่จะได้วางสายน้ำหยดได้ง่าย ๆ จากนั้นติดตั้งวาล์วควบคุมแรงดันและต่อท่อเข้ากับถังเก็บน้ำ เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
เทคนิคการให้น้ำหยดในไร่อ้อยให้ได้ผลจริง
มาต่อกันกับเทคนิคปลูกอ้อยอย่างไรให้งามด้วยการให้น้ำอ้อยแบบระบบน้ำหยด แน่นอนว่าระบบน้ำหยดจะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรสามารถให้น้ำอ้อยอย่างสม่ำเสมอในช่วงหน้าแล้งได้ แต่ระบบน้ำหยดยังมีเทคนิคอื่น ๆ ที่จะช่วยให้การให้น้ำอ้อยนั้นมีประสิทธิภาพได้ผลจริง และยังช่วยเรื่องเพิ่มผลผลิตอีกด้วย โดยพี่น้องเกษตรกรสามารถทำเทคนิคเหล่านี้กับระบบน้ำหยดได้
กำหนดความถี่ในการให้น้ำ
ความถี่ในการให้น้ำอ้อยถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุด โดยต้องกำหนดให้เหมาะกับช่วงเวลา เช่น ในช่วงฤดูปกติ อาจกำหนดความถี่ไว้ที่ทุก ๆ 2-3 วัน แต่ในช่วงร้อนจัด แนะนำว่าควรให้น้ำอ้อยทุกวันเพื่อไม่ให้อ้อยสูญเสียความชื้นในดิน
ใช้น้ำหยดควบคู่กับการใส่ปุ๋ยละลายน้ำ (Fertigation)
ข้อนี้ถือเป็นข้อดีของระบบน้ำหยดที่จะช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของอ้อยเป็นอย่างมาก เพราะระบบน้ำหยดสามารถทำควบคู่กับการผสมปุ๋ยละลายน้ำ (Fertigation) ลงไปพร้อมกัน ทำให้ประหยัดต้นทุนแรงงาน และไม่ต้องเสียเวลาในการให้ปุ๋ยอีกรอบด้วย
วางสายหยดใกล้โคนต้นอ้อยให้เหมาะสมกับระยะปลูก
สายหยดน้ำ ควรวางไว้ใกล้กับโคนต้นอ้อยให้เหมาะสมกับระยะปลูก โดยระยะที่ดีจะอยู่ที่ประมาณ 20-50 เซนติเมตร เพื่อให้น้ำสามารถหยดลงสู่รากได้โดยตรงมากที่สุด
ผลลัพธ์ของการใช้น้ำหยดกับไร่อ้อยในหน้าแล้ง
การให้น้ำอ้อยด้วยระบบน้ำหยด มีข้อดียังไง? นอกจากจะช่วยให้อ้อยสามารถฝ่าฟันหน้าแล้งไปได้แล้ว ระบบน้ำหยดยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรควรหันมาใช้ระบบน้ำหยดในการปลูกอ้อยอีกหลากหลายข้อ ดังนี้
1. อ้อยเขียว ใบไม่ไหม้ หัวสมบูรณ์
หน้าแล้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่อากาศร้อนจัด โรคใบไหม้ถือเป็นปัญหาใหญ่ ๆ ที่ชาวเกษตรกรมักจะพบเจอ แต่ถ้าหากอ้อยได้รับน้ำอย่างเพียงพอก็จะช่วยลดปัญหาใบไหม้ได้ แถมยังได้กำไรเป็นอ้อยเขียวสวย หัวสมบูรณ์อีกด้วย
2. ลดการสูญเสียน้ำได้กว่า 40-60% เมื่อเทียบกับการรดแบบทั่วไป
เนื่องจากระบบน้ำหยดเป็นการให้น้ำในปริมาณน้อยแต่สม่ำเสมอ จึงจะช่วยให้อ้อยลดการสูญเสียน้ำจากการระเหยได้ค่อนข้างมาก เพราะน้ำจะคอยหยดเติมลงรากอยู่เรื่อย ๆ เช่นเดียวกับปุ๋ย หากผสมปุ๋ยลงไปใช้กับระบบน้ำหยด อัตราการระเหยของปุ๋ยก็จะน้อยลง ทำให้อ้อยได้รับสารอาหารมากขึ้นนั่นเอง
3. เพิ่มผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น 20-50%
ระบบน้ำหยดจะช่วยเพิ่มโอกาสได้ผลผลิตในปริมาณที่มากขึ้นถึง 20-50% เลยทีเดียว เพราะอ้อยได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ รวมถึงมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ทำให้มีโอกาสได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น
4. ต้นทุนค่าปุ๋ยลดลงเพราะการใช้ร่วมกับน้ำหยดทำให้ดูดซึมได้เต็มที่
ต้นทุนปุ๋ยก็เรียกได้ว่าเป็นต้นทุนแฝงที่เกษตรกรต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ แต่ระบบน้ำหยดสามารถผสมปุ๋ยละลายน้ำลงไปได้ ประกอบกับการหยดน้ำอย่างสม่ำเสมอจึงทำให้อ้อยสามารถดูดซึมสารอาหารจากปุ๋ยได้อย่างเต็มที่ ส่วนพี่น้องเกษตรกรก็ได้ผลพลอยได้เป็นต้นทุนปุ๋ยที่ลดลงนั่นเอง
ข้อควรระวังและคำแนะนำสำหรับเกษตรกรมือใหม่
สำหรับพี่น้องชาวเกษตรกรที่อยากทำระบบน้ำหยดในไร่อ้อย เรามีข้อควรระวังและคำแนะนำที่ควรรู้มาแชร์ให้ได้ทราบกัน ดังนี้
1. ควรตรวจสอบแรงดันน้ำอย่างสม่ำเสมอ
หัวใจสำคัญของระบบน้ำหยดคือแรงดันน้ำ ถ้าแรงดันไม่มากพออาจทำให้การให้น้ำอ้อยไม่ทั่วถึง และไม่ให้ผลลัพธ์ดีเท่าที่ควรจะเป็นได้
2. หมั่นล้างหัวน้ำหยดเพื่อป้องกันการอุดตัน
เพราะระบบน้ำหยดเป็นระบบให้น้ำแบบที่ไม่ต้องลงแรงรดน้ำเอง หลายคนจึงอาจชะล่าใจและปล่อยให้ระบบทำงานด้วยตัวเองโดยไม่ได้ตรวจสอบ แต่เพื่อผลผลิตในอนาคตแล้ว แนะนำให้พี่น้องเกษตรกรหมั่นคอยล้างหัวน้ำหยดเพื่อป้องกันการอุดตัน อาจเสียเวลาเล็กน้อยแต่เพื่อความแน่นอนกว่า
3. ก่อนลงระบบน้ำหยดเต็มแปลง ให้ลองติดตั้งในพื้นที่ย่อยก่อนเพื่อทดลอง
หากใครที่ติดตั้งระบบน้ำหยดด้วยตนเอง แนะนำให้ติดตั้งในพื้นที่เล็ก ๆ ก่อนเพื่อทดลองแรงดันและปริมาณน้ำว่าพอดีหรือไม่ เพื่อที่จะได้แก้ไขให้เหมาะสมก่อนลงพื้นที่จริง ลดการเสียแรงและเวลารื้อติดตั้งใหม่ด้วย
4. เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่
ขนาดและจำนวนอุปกรณ์ที่ได้แนะนำไปข้างต้นนั้นเป็นจำนวนที่เหมาะกับพื้นที่ 5 ไร่ แต่ในการติดตั้งจริง ควรเลือกอุปกรณ์และจำนวนให้เหมาะกับพื้นที่ของตัวเอง เพื่อที่จะได้ใช้ระบบน้ำหยดที่ถูกต้องเหมาะสม และมีประสิทธิภาพได้สูงสุด
ระบบน้ำหยดช่วยให้อ้อยรอดหน้าแล้งได้จริง เพิ่มผลผลิตได้อย่างยั่งยืน
การลงทุนในระบบน้ำหยดคือหนึ่งในทางออกที่คุ้มค่าและยั่งยืนที่สุดสำหรับเกษตรกรยุคใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่ฝนตกน้อย อากาศร้อนจัด และน้ำมีราคาสูงขึ้น เพราะระบบน้ำหยดจะเป็นการให้น้ำอ้อยในปริมาณน้อย แต่เน้นความสม่ำเสมอ การที่น้ำหยดอย่างสม่ำเสมอยังช่วยลดอัตราการสูญเสียน้ำได้ดีกว่าการรดน้ำแบบทั่วไปอีกด้วย
นอกจากเรื่องการคุมความชุ่มชื้นให้เหมาะสมกับอ้อยแล้ว ระบบน้ำหยดยังมีอัตราการเกิดวัชพืชน้อยกว่าการให้น้ำแบบราดร่องหรือฉีดฝอย ด้วยการหยดน้ำในจุดเดียว ไม่ได้กระจายน้ำไปทั่วพื้นที่แบบอื่น ๆ ทำให้บริเวณวัชพืชที่เกิดขึ้นมาถูกจำกัดให้แคบลง สามารถกำจัดได้ง่ายขึ้น หรือเพื่อความรวดเร็วก็อาจใช้ซี่คราดสปริงมาช่วยในการกำจัดวัชพืชได้
สำหรับพี่น้องเกษตรกรที่กำลังมองหาอุปกรณ์การเกษตรคุณภาพดี ทนทาน มาใช้กับไร่อ้อย ที่ใช้งานได้จริงทุกสภาพแปลง CMT คือผู้ผลิตผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องมือเกษตร เราออกแบบและผลิตผานสับกลบ เคลียร์ตอซัง เศษใบอ้อยก่อนเริ่มปลูกใหม่ และซี่คราดกำจัดวัชพืช จากเหล็กโบร่อนคุณภาพสูง แข็งแรง ใช้งานได้นาน คุ้มค่าทุกการลงทุนและตอบโจทย์ทุกไร่สวนของพี่น้องเกษตรกร
สนใจผลิตภัณฑ์ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านช่องทาง
- CMT Thailand เบอร์ +66 38 273 250 to 7
- Facebook Page: Cmt ชลบุรีเมืองทอง ไถดีที่สุด -เพจหลักเพจเดียว
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน LINE Official @cmt1955