แชร์

ปลูกอ้อย 1 ไร่ ใช้อ้อยกี่ตัน เลือกอ้อยพันธุ์ไหนได้ผลผลิตคุ้ม

อัพเดทล่าสุด: 26 พ.ค. 2025
118 ผู้เข้าชม

ปลูกอ้อย 1 ไร่ ต้องใช้พันธุ์อ้อยกี่ตัน และเลือกอ้อยพันธุ์ไหนดีถึงได้ผลผลิตคุ้ม

พี่น้องเกษตรกรมือใหม่หลายท่านที่กำลังวางแผนปลูกอ้อย อาจเกิดคำถามว่า หากจะปลูกอ้อยสัก 1 ไร่ ต้องเตรียมพันธุ์อ้อยกี่ตันจึงจะเพียงพอ? และจะเลือกปลูกพันธุ์ไหนดีถึงจะให้ผลผลิตคุ้มค่า ลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนดี อ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจที่ปลูกแล้วสร้างรายได้มั่นคง แต่หากเริ่มต้นผิดพลาด เช่น ใช้พันธุ์ไม่เหมาะสม หรือคำนวณปริมาณพันธุ์อ้อยผิด อาจทำให้ต้นทุนบานปลายและผลผลิตต่ำกว่าที่หวังไว้ 

บทความนี้จะพาพี่น้องเกษตรกรไปหาคำตอบ พร้อมแนะนำพันธุ์อ้อยยอดนิยมที่ให้ผลผลิตสูง ทนแล้งดี และเหมาะกับพื้นที่เพาะปลูกในแต่ละพื้นที่ในประเทศไทย

ปลูกอ้อย 1 ไร่ ใช้พันธุ์อ้อยกี่ตันถึงจะพอดี?

ก่อนตัดสินใจซื้อท่อนพันธุ์อ้อย ต้องเข้าใจก่อนว่าปัจจัยหลายอย่างส่งผลต่อปริมาณที่ต้องใช้ เช่น ลักษณะพันธุ์อ้อย ระยะปลูก ความยาวท่อนพันธุ์ และจำนวนตาในแต่ละท่อน หากเข้าใจเรื่องเหล่านี้ จะช่วยคุมต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ในระยะยาว

ปริมาณท่อนพันธุ์ที่ใช้ปลูกต่อไร่

โดยทั่วไป การปลูกอ้อย 1 ไร่ ใช้ท่อนพันธุ์เฉลี่ยประมาณ 1.2 - 1.5 ตัน ขึ้นอยู่กับ 

  • ความยาวของท่อนพันธุ์
  • จำนวนตาในแต่ละท่อน
  • ระยะปลูก

ถ้าปลูกชิดเกินไปจะใช้ท่อนพันธุ์มากขึ้น แต่ก็อาจแย่งอาหารกัน จึงควรวางระยะปลูกให้เหมาะสม เพื่อให้เจริญเติบโตดีและให้ผลผลิตคุ้มที่สุด

ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณการใช้พันธุ์อ้อย

ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณการใช้พันธุ์อ้อย ได้แก่ ลักษณะพันธุ์อ้อย ดิน ปริมาณน้ำ ฝน และฤดูกาล ซึ่งรวมไปถึงระบบการปลูกต่าง ๆ ด้วย เช่น แถวปลูกอ้อย หรือการใช้เครื่องมือจักรกลการเกษตรเสริมในการปลูก

ลักษณะพันธุ์อ้อยนั้นสามารถส่งผลต่อปริมาณในการปลูกอ้อยได้ ซึ่งจะมีทั้งพันธุ์อ้อยโตเร็ว และพันธุ์อ้อยโตช้า หากพี่น้องชาวเกษตรเลือกพันธุ์อ้อยโตเร็วก็อาจจะลดปริมาณท่อนพันธุ์ได้ เพื่อจัดวางระยะปลูกให้เหมาะสมกับแต่ละพันธุ์ และมีโอกาสเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขาย ปลูกอ้อยส่งโรงงานได้เร็วกว่าคู่แข่งนั่นเอง

ในส่วนของสภาพดินและฤดูกาลยิ่งมีผลต่อการปลูกอ้อยอย่างแน่นอน และเป็นเรื่องหนักใจของพี่น้องชาวเกษตรกรหลาย ๆ คนอีกด้วย เพราะในช่วงฤดูแล้ง อ้อยมีโอกาสสูญเสียผลผลิตได้มากจากปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาอ้อยขาดน้ำ อาจเลือกใช้วิธีระบบน้ำหยดเพื่อเพิ่มความชื้นในดินให้กับอ้อย รวมถึงเลือกพันธุ์อ้อยทนแล้งมาปลูกก็จะช่วยได้มาก

เทคนิคประหยัดพันธุ์อ้อย แต่ยังได้ผลผลิตดี

หากพี่น้องเกษตรกรอยากลดต้นทุนปลูกอ้อยแต่ยังได้ผลผลิตคุ้มค่า กำไรงาม ๆ มีเทคนิควิธีที่จะช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตได้ โดยให้คำนึงถึงจำนวนตาอ้อย คุณภาพท่อนพันธุ์ และการเตรียมดิน

อ้อยที่ปลูกได้ดีนั้นควรเลือกท่อนพันธุ์อ้อยที่มีตาเดียวและคุณภาพดีเท่านั้น โดยท่อนพันธุ์ที่เหมาะสำหรับปลูกควรลำตรง ยาว ปลอดโรค ไม่มีใบไหม้หรือจุดด่าง และไม่มีแมลงกัดกิน หากพบท่อนพันธุ์ที่มีปัญหา ควรแยกออกทันที เพื่อลดความเสี่ยงโรคใบไหม้และปัญหาศัตรูพืชในแปลงอ้อย

ดินที่ดีก็มีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของอ้อย เกษตรกรควรเริ่มตั้งแต่ปรับปรุงโครงสร้างดินให้เหมาะกับการปลูก เช่น ใช้ผานสับกลบตอซัง กำจัดวัชพืชก่อนปลูก และระหว่างการเจริญเติบโตก็ควรควบคุมวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารอ้อย โดยอาจใช้ซี่คราดสปริงช่วยลดแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการแปลงอ้อย

อ่านบทความที่น่าสนใจ: เทคนิคเตรียมดินปลูกอ้อยข้ามแล้งฉบับเกษตรกรตัวจริง ผลผลิต 30 ตันต่อไร่ไม่ไกลเกินเอื้อม

เลือกพันธุ์อ้อยยังไงให้ได้ผลผลิตดี คุ้มค่าทุกไร่

เลือกพันธุ์อ้อยพันธ์ไหนดี? อ้อยพันธุ์ไหนดีที่สุด? น่าจะเป็นคำถามที่พี่น้องเกษตรกรหลาย ๆ คนต้องการคำตอบ มาดูกันว่าเราจะมีวิธีเลือกพันธุ์อ้อยยังไงได้บ้างให้ได้ผลผลิตเยอะ อ้อยหวาน และทน ไม่ตายง่าย

เลือกพันธุ์อ้อยให้เหมาะกับพื้นที่ปลูก

เริ่มจากตรวจสอบสภาพดินในไร่ก่อนว่าดินเป็นแบบไหน? ดินร่วน ดินเหนียว ดินทราย หรือดินเค็ม เพราะพันธุ์อ้อยแต่ละชนิดเหมาะกับดินต่างกัน หากเป็นดินเค็ม อ้อยอาจโตช้า แคระแกร็น ควรหลีกเลี่ยงหรือปรับปรุงดินก่อนปลูก

สามารถส่งตัวอย่างดินไปตรวจวิเคราะห์ได้ที่ สำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

นอกจากนี้ ควรพิจารณาด้วยว่าพื้นที่เป็นไร่ชลประทานหรือไร่ฝน เพื่อเลือกพันธุ์อ้อยที่ใช้น้ำน้อยหรือทนแล้งได้ดี ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสได้ผลผลิตสูงในแต่ละฤดูกาล

เลือกพันธุ์อ้อยให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งาน

จุดประสงค์ในการปลูกอ้อยมีผลต่อการเลือกพันธุ์โดยตรง หากปลูกเพื่อขายโรงงานน้ำตาล ควรเลือกพันธุ์ที่ให้ความหวานสูง แต่ถ้าปลูกเพื่อผลิตเอทานอลหรืออาหารสัตว์ ควรเลือกพันธุ์ที่ปลูกง่าย โตเร็ว และให้ผลผลิตได้ต่อเนื่องหลายปี การเลือกให้ตรงกับเป้าหมายจะช่วยให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ามากขึ้น

เลือกพันธุ์อ้อยที่ทนแล้ง ต้านโรค โตเร็ว

สภาพอากาศในประเทศไทยร้อนจัด โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งที่อ้อยมักชะงักการเจริญเติบโตหรือยืนต้นตาย การเลือกพันธุ์อ้อยที่ทนแล้งจึงช่วยลดความเสี่ยงเรื่องผลผลิต แถมยังช่วยป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชได้ดีขึ้น ยิ่งถ้าเป็นพันธุ์ที่โตเร็วและแข็งแรง ก็ยิ่งทำให้ดูแลง่ายและเก็บเกี่ยวได้ไว

แนะนำพันธุ์อ้อยยอดนิยมที่เกษตรกรไทยเลือกปลูก

ปัจจุบันมีพันธุ์อ้อยที่เกษตรกรนิยมปลูกอยู่ประมาณ 5 สายพันธุ์ ซึ่งแต่ละพันธุ์มีจุดเด่นเฉพาะตัว และให้ผลผลิตที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และสภาพพื้นที่ปลูก ดังนี้

พันธุ์อู่ทอง 11 (UT 11) โตเร็ว ให้ความหวานสูง เหมาะสำหรับพื้นที่ชลประทาน

สายพันธุ์ยอดนิยมในภาคกลาง เหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอ เช่น เขตชลประทาน

  • ระยะปลูกประมาณ 12 เดือน
  • ให้ปริมาณน้ำตาลสูง
  • เหมาะสำหรับปลูกเพื่อส่งโรงงานผลิตน้ำตาล

พันธุ์อู่ทอง 12 (UT 12) ทนแล้งดี ลำต้นแข็งแรง เหมาะกับไร่ฝน

ตอบโจทย์เกษตรกรในพื้นที่แห้งแล้ง โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • ปลูกในไร่ฝนได้ดี ไม่ต้องพึ่งระบบน้ำมาก
  • ลำต้นแข็งแรง ไม่ล้มง่าย
  • ทนแล้ง ไม่ตายง่ายช่วงหน้าแล้ง

พันธุ์ K 88-92 ปลูกง่าย ให้ผลดีหลายปี ลดต้นทุนระยะยาว

เหมาะกับเกษตรกรทุกระดับ ไม่ว่าจะรายย่อยหรือรายใหญ่

  • ปลูกได้กับดินหลากหลายประเภท
  • อายุการให้ผลผลิตยาวหลายปี
  • ลดความถี่ในการซื้อพันธุ์ใหม่ ประหยัดต้นทุน

พันธุ์ LK 92-11 เหมาะกับการปลูกแบบอินทรีย์ ต้านโรคและแมลงได้ดี

ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดการใช้สารเคมีในแปลงอ้อย

  • ทนโรค และแมลงศัตรูพืชได้ดี
  • ให้ผลผลิตต่อเนื่องหลายรอบปลูก
  • เหมาะสำหรับทำอ้อยอินทรีย์หรืออ้อยปลอดสาร

พันธุ์ F 140 ปลูกในดินเค็มหรือพื้นที่ลุ่มได้ ให้ความหวานสูง

เหมาะกับพื้นที่ที่ดินไม่อุดมสมบูรณ์ เช่น ดินเค็มหรือลุ่มต่ำ

  • ให้ความหวานสูง แม้ในดินเค็ม
  • ควรมีระบบน้ำช่วยเสริมเพื่อเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต
  • เหมาะสำหรับปลูกส่งโรงงานผลิตน้ำอ้อยและน้ำตาล

ปลูกอ้อย 1 ไร่ให้คุ้ม เริ่มต้นที่การวางแผนที่ดี

การปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิตคุ้มค่า ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับปริมาณท่อนพันธุ์ที่ใช้ แต่ต้องวางแผนให้ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกพันธุ์ให้เหมาะกับสภาพดินและวัตถุประสงค์ในการปลูก ไปจนถึงการเตรียมแปลงและดูแลในระหว่างการเจริญเติบโต

นอกจากนี้แล้วการเตรียมดินทั้งก่อน-หลัง รวมถึงระหว่างการปลูกอ้อยก็สำคัญไม่แพ้การเลือกใช้พันธุ์อ้อยเลยทีเดียว เพราะอย่าลืมว่าถ้าดินดี อ้อยของพี่น้องเกษตรกรก็จะให้ผลผลิตงอกงามมากขึ้น โดยอาจเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในการช่วยเตรียมดิน หรือจัดการงานเกษตรต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

CMT ตัวจริงเรื่องเครื่องมือเกษตร พร้อมเป็นพลังให้เกษตรกรไทย ไม่ว่าพี่น้องเกษตรกรจะมองหาผานยกร่อง ผานสับกลบ หรือซี่คราดสปริง เรามีเครื่องมือคุณภาพหลากหลายที่ออกแบบด้วยความใส่ใจ แข็งแรงทนทานจากเหล็กโบรอนคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทุกสภาพดินและใช้งานได้จริง พร้อมเคียงข้างเกษตรกรไทย

สนใจผลิตภัณฑ์ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านช่องทาง


บทความที่เกี่ยวข้อง
โรคในมันสำปะหลัง
รวมโรคที่พบบ่อยในมันสำปะหลัง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันโรคมันสำปะหลังให้พี่น้องเกษตรกรเตรียมตัวป้องกันและรับมือได้อย่างเนิ่น ๆ เพื่อปริมาณผลผลิตที่คุ้มค่า
เกษตรกรต้องรู้! เหล็กโบรอน vs เหล็กคาร์บอน เลือกแบบไหนดี? เจาะลึกข้อแตกต่างก่อนเลือกซื้อจานไถ
จานไถ เลือกวัสดุแบบไหนดี แนะนำข้อแตกต่างระหว่างเหล็กโบรอน และเหล็กคาร์บอน แบบไหนแข็งแรงทนทาน อ่านข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพื่อความคุ้มค่าในการลงทุน
เทคนิคการใช้น้ำหยดให้อ้อยงามในหน้าแล้ง เพิ่มผลผลิตเต็มไร่
เทคนิคปลูกอ้อยหน้าแล้งด้วย “ระบบน้ำหยด” วิธีที่จะช่วยให้อ้อยนั้นเติบโตผ่านหน้าร้อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้นทุนแรงงานต่ำ อ้อยสมบูรณ์ ได้ผลผลิตสูง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy